วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ก่อนจากลา

ท่านผู้อ่านคะตอนนี้เราก็เดินทางตามเส้นขนมจีนมาจนสุดทางแล้ว

หวังว่าท่านผูู้อ่านคงสนุกและเต็มอิ่มกับสาระที่เราได้นำมาฝากกันนะคะ

ท่านผู้อ่านคงได้รู้และเข้าใจถึงขั้นตอนการทำเส้นขนมจีน

และได้เห็นถึงความอยากลำบากความเป็นมาของเส้นยาวๆนี้

 ทั้งน้ำแกงที่ช่วยเพิ่มเรื่องราวให้เข้าข้นขึ้นและเพิ่มรสชาติที่แตกต่างกันไป

ก็คงถึงเวลาต้องลากันไปแล้ว

 ไว้คราวหน้าเราจะพาท่านมาสนุกกับการค้นหากันใหม่คราวหน้า

ขอบคุณที่ติดตามอ่านคะ :)



รูปภาพจาก : www.tsgclub.com

ขนมจีนบ้านใกล้เรือนเคียง

 ขนมจีนนานาชาติ 
         
  

           ขนมจีนไม่ได้มีแค่ในประเทศเรานะคะในต่างประเทศเองก็มีเช่นกันอย่างประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆเราคะ เช่น พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนามคะ แต่ละประเทศก็จะมีวัฒนธรรมการทานที่แตกต่างกันไปคะและจะมีจุดเด่นของตัวเองที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย 


 พม่า 

           โมฮิงกา เป็นชื่อเรียกของขนมจีนหรือที่เรียกกันว่าขนมจีนพม่าคะ ในประเทศพม่านิยมรับประทานโมฮิงกาเป็นอาหารเช้า ทานคู่กับของทอดหรือผักทอดอย่างใดอย่างนึงมีทั้งปาท่องโก๋ หรือผักพื้นเมืองชุบแป้งทอดอื่นๆ ที่เห็นจะนิยมมากที่สุดคือ ลูกน้ำเต้าหั่นเป็นแท่งแล้วชุบแป้งทอดคะ น้ำยาของโมฮิงกามีวิธีการทำที่สลับซับซ้อนส่วนผสมหลักคือเนื้อปลา และต้องใช้ปลาหลายชนิด ที่พบบ่อยสุดมีอยู่ 4 ชนิด คือปลาจีดอินเดีย ปลาดุกด้าน ปลานวลจันทร์เทศ และปลาช่อนคะ 



 ลาว 

           ในประเทศลาวมีการกินขนมจีนกับน้ำยาปลา และน้ำยาเป็ด ทางหลวงพระบางนิยมทางขนมจีนกับน้ำยาผสมเลือดหมูเรียกว่าน้ำแจ่ว และอีกอย่างเรียกว่า ข้าวปุ้น มีลักษณะคล้ายต้มเครื่องในวัว แต่ทานคู่กับเส้นขนมจีน มีทั้งแบบน้ำใสและน้ำข้น


 กัมพูชา 

            กัมพูชาขนมจีนน้ำยาถือเป็นอาหารประจำชาติ มีขนมจีนน้ำยาและแกงซัมลอมจูล (แกงเปรี้ยว) เป็นอาหารประจำชาติ



 เวียดนาม 

            ในเวียดนามเรียกขนมจีนว่าบุ๋น ในเวียดนามมีบุ๋นหลายแบบ บุ๋นบ่อเหว เป็นขนมจีนน้ำใส่เนื้อวัวหรือเนื้อหมู เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงของเว้ เป็นอย่างมากคะ บุ๋นทิดหนึง ขนมจีนหมูย่าง บุ๋นบ่อ ขนมจีนหน้าเนื้อ

บุ๋นบ่อเหว


         




ขอขอบคุณเนื้อหาจาก http://www.tourdefoodblog.com/2011/06/mo-hin-ga/
                                     http://chaiwat4u.bloggang.com
                                     http://www.studyasean.in.th/index.php/th/learning/m2/m2-unit2/cambodia
                                     http://th.wikipedia.org/wiki/ขนมจีน_(อาหารไทย)
                                     http://th.wikipedia.org/wiki/อาหารเวียดนาม          

น้ำยาขนมจีนภาคเหนือ








           เอาละคะเรามาต่อกันที่ภาคต่อมากันเลยนั่นก็คือภาคเหนือคะ น้ำยาขนมจีนที่มีชื่อเสียงของภาคเหนือนั่นก็คือขนมจีนน้ำเงี้ยวนั่นเองคะ รสชาติออกเปรี้ยวจากมะเขือเทศและเค็มมัน ได้รสหวานจากกระดูกหมู เนื้อหมู  เลือกใช้มะเขือส้มลูกกลมเล็ก รสจะเปรี้ยวเป็นพิเศษคะ ต่อไปเราจะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับวัตถุดิบที่ใช้ทำน้ำเงี้ยวกันเลยคะ

ส่วนผสมมีดังนี้คะ

ซี่โครงหมู/อ่อน (แช่ในน้ำ 8ถ 15นาที-ยกตั้งไฟเคี่ยว) 1/2 กิโลกรัม

เนื้อหมู (สับละเอียด) 1/2 กิโลกรัม

เลือดหมู/ไก่ (ล้างแช่น้ำ-หั่นลูกเต๋า-ลวกน้ำร้อน-แช่น้ำเย็น) 1 ก้อน

มะเขือเทศพวง/ส้ม สีดา (หั่นครึ่งหรือหั่นชิ้นเล็ก) 1/2 กิโลกรัม

ดอกงิ้ว (แช่น้ำ-ตัดหัว/คั่วแข็งๆ-ฉีกเป็นเป็นเส้น) 30 กรัม

เกลือป่น 1 

น้ำมัน 2 

น้ำ 8 

เครื่องแกง
พริกแห้งเม็ดใหญ่ (ล้าง-กรีดแกะเม็ด-หั่นฝอย-แช่น้ำ) 10 เม็ด

รากผักชี (หั่นฝอย) 1 ช้อนโต๊ะ

ข่า (หั่นละเอียด) 1 ช้อนโต๊ะ

ขมิ้นสด (หั่นละเอียด) 1 ช้อนโต๊ะ

ตะไคร้ (ซอย) 2 ช้อนโต๊ะ

หอมแดง (ซอย) 1/4 ถ้วย

กระเทียม (ซอย) 3 ช้อนโต๊ะ

เกลือป่น 1 ช้อนชา

ถั่วเน่าแผ่น (ปิ้งไฟ-ป่นละเอียด) หรือแทนด้วยเต้าเจี้ยวดำโขลก 1-2ชต 2 แผ่น

เครื่องเคียง
ผักกาดดอง (หั่นฝอย-ผัดน้ำมันให้เงาและหมดกลิ่นผักดอง) 1 ถ้วย

ถั่วงอก (เด็ดหาง) 200 กรัม

ต้นหอม ผักชี (ซอย) 1/4 ถ้ว

มะนาว (ผ่าเป็นเสี้ยวเล็ก) 3 ลูก

กระเทียม (สับ-เจียว) 1/4 ถ้วย

พริกขี้หนูแห้ง (ทอดกรอบ หรือพริกป่น)

แคปหมู


          มาถึงวิธีทำคะ นำกระดูกหมู ล้างใส่หม้อเติมน้ำแช่ทิ้งไว้ 15นาที ตั้งไฟเดือด คอยช้อนฟองให้น้ำใส ตั้งไฟอ่อนเคี่ยวให้เปื่อยนุ่ม โขลกเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่ถั่วเน่าที่ปิ้งไฟป่นละเอียดคลุกให้เข้ากันคะ นำกะทะใส่น้ำมันตั้งไฟใส่เครื่องแกงที่โขลกรวมกับถั่วเน่า ผัดให้สุกหอม ใส่หมูสับผัดให้เข้ากันใส่มะเขือเทศผัดทิ้งไว้ให้สักพักคะ ดูจนมะเขือเริ่มสุก ใส่น้ำต้มหมูเทเครื่องที่ผัดกลับไปในหม้อต้มกระดูกหมู เร่งไฟปานกลางรอให้เดือดแล้วใส่เลือดหมู ดอกงิ้ว ใช้ไฟอ่อนเคี่ยวให้เข้าเนื้อ ถ้าน้ำงวดให้เติมน้ำลงไปนะคะเคี่ยวต่อ ปรุงรสออกเค็มเปรี้ยว (เกลือ น้ำมะขาม) เป็นอันเสร็จคะ


 





ขอบคุณสูตรและรูปภาพจาก http://www.foodtravel.tv


น้ำยาขนมจีนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ








           มาถึงภาคสุดท้ายแล้วคะนั่นก็คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั่นเองการทานน้ำยาของภาคนี้ก็จะนิยมกินกับน้ำยาใส่ปลาร้า ใส่กระชายเหมือนน้ำยาภาคกลาง มีการกินขนมจีนกับน้ำต้มกระดูกปรุงรสด้วยน้ำปลาร้าแต่ไม่ใส่เนื้อปลาร้านะคะหน้าตาเป็นแบบในรูปเลยคะ


 

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.chiangkan.com

แล้วขนมจีนยังไม่ได้ทานได้กับเฉพาน้ำยานะคะยังทานกับส้มตำได้ด้วย นั่นก็คือตำซั่วคะ


ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://bpclub.gagto.com

           ก็จบไปแล้วกับขนมจีนทั้ง4ภาค ท่านผู้อ่านคงได้ความรู้เกี่ยวกับน้ำยาขนมจีนเพิ่มขึ้น จะได้เลือกได้เวลาที่เราไปร้านขนมจีน อย่าลืมๆไปลิ้มลองทานน้ำยาต่างๆกันนะคะแล้วมาบอกต่อกันด้วยละว่าร้านไหนเด็ดๆ ;)